การเงิน·
คุมต้นทุนและกำไรต่อเมตร/แผ่น สำหรับเมทัลชีท: สูตรคำนวณและตัวอย่างจริง
วิธีคำนวณต้นทุนต่อเมตรจากคอยล์ ค่าแรงรีด ค่าตัด/แพ็คกิ้ง ค่าเสียหาย (Scrap) รวมถึงการตั้งราคาขายให้ได้ GP ตามเป้า พร้อมตัวอย่างที่ปรับใช้ได้ทันที
โครงสร้างต้นทุนต่อเมตร
- ต้นทุนวัตถุดิบ (คอยล์): ราคา/กก. × น้ำหนักต่อเมตร (กก./ม.)
- ต้นทุนการผลิต: ค่าแรงรีด/ตัด/ตั้งเครื่อง + ค่าเสื่อม + ไฟฟ้า (คิดเป็นบาท/ม.)
- บรรจุภัณฑ์และแพ็คกิ้ง: ฟิล์ม/สายรัด/สติกเกอร์ (บาท/ม.)
- ของเสีย (Scrap/Loss): เฉลี่ย 1–3% ของวัตถุดิบ ขึ้นกับการตั้งเครื่องและความยาวงาน
- โลจิสติกส์ (ถ้ามี): ค่าขนส่งเฉลี่ยต่อเมตร หรือคิดแยกในใบเสนอราคา
สูตรคำนวณหลัก
- น้ำหนักต่อเมตร ≈ ความหนา (มม.) × ความกว้างสุทธิ (มม.) × 7.85 ÷ 1,000
- ต้นทุนต่อเมตร = (ราคาเหล็กต่อกก. × น้ำหนักต่อเมตร × (1+Loss%)) + ต้นทุนการผลิต + แพ็คกิ้ง
- ราคาขายตามเป้า = ต้นทุนต่อเมตร ÷ (1 - GPเป้า)
ตัวอย่างคำนวณ (สมมติ)
- สเปค: หนา 0.35 มม., กว้างสุทธิ 762 มม. → น้ำหนักต่อเมตร ≈ 0.35×762×7.85/1000 ≈ 2.09 กก./ม.
- ราคาเหล็ก: 38 บาท/กก., Loss 2% → วัตถุดิบต่อเมตร ≈ 38×2.09×1.02 ≈ 81.1 บาท
- ผลิต/แพ็คกิ้ง: 6 + 2 = 8 บาท/ม. → ต้นทุนรวม ≈ 89.1 บาท/ม.
- GP เป้า 18% → ราคาขาย/ม. ≈ 89.1 ÷ (1-0.18) ≈ 108.7 บาท/ม.
แนวทางคุมต้นทุน
- ปรับ Loss Target ตามลอนและความยาวงาน (งานสั้นเสียมากกว่า)
- ตรวจสอบน้ำหนักจริง/เมตรจากชั่งตัวอย่างทุกกะ เทียบสูตร หากคลาดเกิน 3% ให้ตั้งเครื่องใหม่
- แยกต้นทุนบริการ (รีด/ตัด/ส่ง) ออกจากสินค้า เพื่อเห็น GP ที่แท้จริงของแผ่น
การตั้งราคาตามโซนการส่ง
- กำหนดราคาโซน A/B/C ตามระยะทาง หรือคิดค่าส่งแยก พร้อม SLA ชัดเจน
- ทำ Bundle ราคา: แผ่น + น็อต + ครอบ เพื่อเพิ่ม AOV โดยไม่ลด GP ของแผ่น
KPI ที่ควรติดตาม
- GP% รายสินค้า/ใบเสนอราคา/บิลขาย
- Loss% รายกะ/รายเครื่อง
- น้ำหนักจริงต่อเมตร เทียบสูตรมาตรฐาน